คำว่า ‘ว่านหางจระเข้’ หรือ Aloe Vera มีแหล่งกำเนิดดั้งเดิมอยู่ที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและบริเวณตอนใต้ของทวีปแอฟริกา ไม่ว่าจะในสมัยโบราณหรือปัจจุบัน ว่านหางจระเข้ได้ถูกจัดให้เป็นสมุนไพรประจำบ้าน แล้วยังใช้เป็นไม้ประดับ เพื่อความสวยงามได้ด้วย เรียกได้ว่า มีไว้ในบ้านไม่เสียหลายจริงๆ โดยเฉพาะในยุคสื่อโซเซียลแบบนี้ ผู้คนก็ยิ่งรู้จักว่านหางจระเข้กันแพร่หลายและมีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากๆ นั่นก็คือ ‘เจลว่านหางจระเข้’ หรือ Aloe Vera Gel เช่นนั้น เราจะขอสาธยายคุณประโยชน์ของเจลว่านหางจระเข้ให้ทุกคนได้รู้ครอบคลุมยิ่งๆ ขึ้น
เจลว่านหางจระเข้ โดยมากจะมีลักษณะเป็นวุ้นหรือเจลใสและมีสีเขียวอ่อนอาจจะมีกลิ่นตามธรรมชาติหรือกลิ่นแต่งสังเคราะห์อันนี้แล้วแต่ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์นั้นๆ
เจลว่านหางจระเข้ที่ดีจะมีคุณประโยชน์ ดังนี้ต่อไป
– สามารถใช้รักษาและบรรเทาอาการแสบร้อนจากแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกหรือถูกของร้อนประเภทอื่นๆ ซึ่งเมื่อเกิด
อาการดังกล่าวให้รีบทาเจลว่านหางจระเข้ตรงบริเวณนั้นๆ อาการแสบร้อนและอักเสบแดงจะบรรเทา แล้วค่อยดีขึ้นเรื่อยๆ
– สามารถใช้รักษาผิวหนังที่เกิดอาการผิวไหม้จากแสงแดด เมื่อผิวหนังถูกแสงแดดจัดจนกลายเป็นสีแดงหรือลอก
เป็นขุยๆ ให้ประโคมผิวด้วยเจลว่านหางจระเข้ ผิวหนังจะลดอาการแสบร้อนและดีขึ้น
– สามารถใช้รักษาแผลที่เกิดจากของมีคมและผิวหนังถลอก ทันทีที่ถูกของมีคมหรือล้มกระแทกจนผิวหนังถลอกให้
ใช้เจลว่านหางจระเข้ทาบนบาดแผลนั้น เจลจะช่วยสมานแผลและลดอาการอักเสบแถมยังช่วยลดร่องรอยบาดแผล เมื่อแผลนั้นหายสนิทแล้ว
– สามารถใช้ลดความมันบนใบหน้าได้ สำหรับผู้ที่มีผิวมันมากๆ ปัญหาผิวมันเหยิ้มถือเป็นปัญหาใหญ่ การใช้
เจลว่านหางจระเข้สามารถช่วยลดปัญหานี้ได้ โดยการชโลมเจลว่านหางจระเข้ลงบนผิวหน้า แล้วทิ้งไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง เนื้อเจลจะซึมลงสู่ผิวและช่วยลดความมันแถมยังช่วยให้ผิวหน้าเนียนนุ่มอีกด้วย
– สามารถใช้รักษารอยด่างดำบนใบหน้าที่เกิดจากสิว การที่ใบหน้ามีรอยดำรอยด่างเป็นเหตุให้ใครหลายคน
กลุ้มอกกลุ้มใจ บางถึงกับต้องไปใช้วิธีรักษาด้วยเลเซอร์ ซึ่งมีราคาสูงไม่น้อย ฉะนั้นหากลองหันมาใช้ผลิตภัณฑ์กึ่งสมุนไพรอย่างเจลว่านหางจระเข้ก็จะเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายได้ ถึงแม้การใช้ผลิตภัณฑ์นี้จะไม่ได้ทำให้รอยที่เกิดขึ้นหายไปในบัดดล แต่ก็สามารถทำให้ร่องรอยต่างๆ ค่อยจางหายได้แถมราคาจับต้องได้ไม่กระเทือนกระเป๋า เพียงทาเจลว่านหางจระเข้เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ ผิวที่มีปัญหาก็จะกลับมาเนียนใส
– สามารถเติมน้ำให้ผิว ทำให้ผิวชุ่มชื่น เจลว่านหางจระเข้สามารถทำให้ผิวที่แห้งกร้านมีริ้วรอยกลับมาเป็นผิวอิ่ม
น้ำและเกิดความชุ่มชื่นได้แถมยังช่วยให้การแต่งหน้าติดทนอีกด้วย โดยการพอกเจลว่านหางจระเข้บนใบหน้าก่อนนอนเป็นประจำ
– สามารถบำรุงเส้นผมให้เงางาม สำหรับผู้ที่มีผมแห้งชี้ฟู เนื่องจากโดนสารเคมีหรือมลภาวะ เจลว่านหางจระเข้
สามารถช่วยให้ผมกลับคืนสู่สภาพดีได้ด้วยการชโลมเจลว่านหางจระเข้ลงบนเส้นผม แล้วหมักทิ้งไว้สักพัก จากนั้นก็ล้างออก ผมจะนุ่มลื่นลดอาการแห้งและชี้ฟู
– สำหรับสุภาพสตรี สามารถใช้เจลว่านหางจระเข้ผสมกับเมคอัพเบสในอัตราส่วน 2-1 เพื่อทำให้ผิวหน้าไม่แห้งตึง
อีกทั้งยังทำให้การแต่งหน้าติดทนด้วย
– สำหรับสุภาพบุรุษ สามารถใช้เจลว่านหางจระเข้หลังการโกนหนวด เพื่อลดการระคายผิวและทำให้ผิวบริเวณนั้น
นุ่มไม่แห้งกร้าน
– สำหรับผู้ที่มีอาการตาบวมก็สามารถใช้เจลว่านหางจระเข้ช่วยลดอาการนั้นได้ โดยกากรนำเจลชโลมลงบนแผ่น
สำลี จากนั้นก็แปะไว้ที่ดวงตา อาการบวมจะลดลงและผิวหนังรอบดวงตาก็จะเนียนนุ่มด้วย
– สามารถใช้เจลว่านหางจระเข้บำรุงเล็บได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาหนังบริเวณเล็บหลุดลอกและเล็บด้าน
เนื่องจากการทาสีเล็บ ให้ทาเจลลงบนเล็บจะเป็นการบำรุงเล็บ ทำให้เล็บแข็งแรงยิ่งขึ้น
– สามารถใช้เจลว่านหางจระเข้ผสมกับครีมบำรุงผิวหน้า แล้วทาทั่วใบหน้าจะทำให้ผิวที่อิดโรยดูดีขึ้นและชุ่มชื่นขึ้น
– สามารถใช้เจลว่านหางจระเข้เป็นโลชั่นทาผิว โดยการทาเจลลงบนผิวกายและลูบให้เนื้อเจลซึมลงผิว เท่านี้ผิวก็
จะนุ่มและไม่แห้งกร้าน
คุณประโยชน์ของเจลว่านหางจระเข้ล้วนมีมากมายจริงๆ แถมในปัจจุบันก็หาซื้อได้ไม่ยากเลย เพราะมีขายทั่วไปทั้งตามร้านขายเครื่องสำอาง ห้างสรรพสินค้าและแม้แต่ตามตลาดออนไลน์ก็ยิ่งหาได้ง่าย ขึ้นอยู่กับว่า ผู้ซื้อจะสะดวกที่ไหนแบบใด มีเพียงข้อสังเกตเล็กน้อยที่ผู้ซื้อควรจะตรวจตราให้ถี่ถ้วนว่า เจลว่านหางจระเข้ที่วางขายนั้นๆ เป็นของแท้ถูกต้องหรือไม่ หากไม่แน่ใจก็ไม่ควรจะซื้อใช้ เพราะอาจจะทำให้เกิดผลเสียต่อผิวพรรณมากกว่าผลดี ยิ่งถ้าเป็นสินค้าเลียนแบบที่มีขายเกลื่อนไปทั่วในราคาย่อมเยาว์ด้วยแล้ว ยิ่งควรจะหลีกเลี่ยง เนื่องจากผลได้ไม่คุ้มเสีย ขอให้ไปเลือกหาเลือกซื้อกับผู้ค้าที่ไว้ใจได้ อย่าเห็นแก่ของราคาถูก จงดูดีๆ เพือความปลอดภัยต่อตัวเองและปลอดภัยต่อกระเป๋าด้วยนะจ๊ะ